สอนสมัครโบรก Exness

แนะนำ การเลือกโบรกเกอร์ แบบมืออาชีพ ตอนที่1


คำถามยอดฮิตที่นักลงทุนมือใหม่ ต้องคิดให้ปวดหัวคือ  โบรกนี้ดีไหม? เลือกโบรกไหนดี? มืออาชีพใช้โบรกไหน?



วันนี้ RooMFOREX จะมาแนะนำ วิธีการเลือกโบรกเกอร์  ให้ เหมาะสม กับ ตัวนักลงทุน แบบมืออาชีพกัน  ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันเล้ยๆๆๆ

หลักการเลือกโบรกเกอร์ เราต้อง มีความรู้ความเข้าใจดังนี้

1.รู้และเข้า “ตนเอง”รู้และเข้าใจกลยุทธ์ของตนเอง

เข้าใจแนวทางการเทรดของตนเอง ว่าเรามีความถนัดอย่างไร และเป็นนักลงทุน - เทรดเดอร์ประเภทไหน Scalping  Swintrading  Daytrading  Position Trader  Arbitrage  Carrytrade  ฯลฯ

1.1เทรดเดอร์ประเภท Scalping , Swing Trading 
  • เทรดเดอร์ประเภท Scalping , Swing Trading นั้น ควรโฟกัสไปที่ Spread ยิ่งต่ำยิ่งเป็นผลดี
  • ความเสถียรในการส่งคำสั่งซื้อ-ขาย ควรเลือกโบรกที่ส่งคำสั่งซื้อ-ขายแบบ Market Execution เนื่องจากมีความรวดเร็วในการจับคู่คำสั่งซื้อ-ขาย มากกว่า Instant Execution และเกิดปัญหาการ Requote น้อย 
  • Gap ระดับช่องว่างของราคา ปัญหานี้ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นในช่วงที่ราคามีการเคลื่อนที่รุนแรง หรือ ช่วงที่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ทำให้เกิดช่องว่างของราคา อาจเป็นผลให้ขาดทุนมากกว่าจุดที่เราตั้ง Stop Loss ได้ 
  • หากใช้บัญชี ECN ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีค่า Commissions น้อย
1.2 เทรดเดอร์ประเภท Position Trader
  • เทรดเดอร์ที่เน้นการถือยาวตามรอบวัฏจักรของราคา ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่มีค่า Swap เพื่อลดต้นทุนแฝงในการซื้อ-ขาย 
1.3เทรดเดอร์ประเภท Carrytrade
  • เทรดเดอร์ที่เน้นการสร้างกระแสเงินสดจากค่า Swap ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ให้ค่า Swap สูง
  • ควรเลือกโบรกเกอร์ที่สามารถ Hedging Swap ได้ สำหรับการ Hedging คู่เงินที่มีความสัมผัสกัน 3 คู่
  • ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread ต่ำ หรือ Spread คงที่ เพื่อลดต้นทุนแฝง
  • ปัจจุบันการเทรด Swap ไม่นิยม Hedging คู่เงินที่มีความสัมพันธ์กัน 3 คู่ เหมือนในอดีต เนื่องจากโบรกเกอร์เริ่มลดช่องว่างค่า Swap ลง เพื่อป้องกันการ Arbitrage ปัจจุบันจึงนิยมการ Hedging คู่เงินเดียวกัน ระหว่างโบรกเกอร์ที่มี Swap กับ ไม่มี Swap แทน ฉะนั้น  ควรเลือกโบรกเกอร์มีไม่มีค่า Swap ด้วย
2.รู้และเข้าใจ “ทุนทรัพย์”  
เข้าใจ “ทุนทรัพย์”  ให้เหมาะสมกับ การลงทุน และเลือกโบรกเกอร์ ให้เหมาะสมกับทุนทรัพย์ เพราะทุนทรัพย์ในการเทรด มีความสัมพันธ์ โดยตรงกับระดับความมั่นคงของโบรกเกอร์ 

2.1หากมีทุนทรัพย์ในระดับที่ไม่สูงมากนัก อาจเลือกโบรกเกอร์ที่เน้นทำการตลาดระดับล่าง ไปจนถึง ระดับกลาง เนื่องจากโบรกเกอร์ที่เจาะตลาดกลุ่มนี้ มักมีข้อเสนอหรือแรงจูงใจที่ดีกว่าโบรกเกอร์ที่เน้นทำการตลาดระดับสูง เช่น
  • สามารถ ฝากเงินเริ่มต้นในระดับต่ำ 1$ เป็นต้นไป
  • มีทุนให้เทรดฟรี ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับ 5$-15$ หากสูงกว่านั้นเช่น 100$ อาจมีเงื่อนไข ในการถอนเงิน และต้องส่งเอกสารยืนยันตัวตน
  • มี Bonus ที่สร้างแรงจูงใจมากกว่า เช่นโบนัสแรกเข้า 30-70% หรือมีการชดเชยเงินทุนเมื่อเทรดเสียเป็นต้น
  • มีประเภทบัญชีที่หลากหลายกว่า ส่วนใหญ่โบรกเกอร์ ที่เจาะตลาดกลุ่มนี้ จะมีบัญชี Cent ให้เลือกใช้งาน
  • มีข้อกำหนดที่คล่องตัวกว่า เช่น สมัครง่าย (บางโบรกไม่จำเป็นต้องยืนยันตัวตน) หรือจำนวน Leverage ที่สูง ระดับ Margin call  Stop out ที่ต่ำ การฝาก-ถอน รวดเร็ว เป็นต้น
2.2 หากมีทุนทรัพย์ที่สูง ควรคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยและสิทธิ์ในการเรียกร้องตามหลักกฎหมาย โดยควรเลือกโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้กำกับองค์กรที่เข้มงวด และน่าเชื่อถือ เช่น NFA , CFTC , FSA , ASIC , MAS เป็นต้น และควรตรวจสอบ วันที่จดทะเบียนอย่างน้อย ไม่น้อยกว่า 5-7ปี

3 รู้และเข้าใจ “โบรกเกอร์”
เข้าใจ “โบรกเกอร์” ให้ตรงจุดประสงค์และความต้องการของเรามากที่สุด ซึ่งโบรกเกอร์มีหลายประเภท เราต้อง รู้ และ เลือก ให้เข้ากับตัวเรามากที่สุด สิ้งที่เราควรรู้ได้แก่
  • ความนิยมในการใช้งาน 
  • ความมั่งคงปลอดภัยของโบรกเกอร์ สถานภาพการจดทะเบียน 
  • ความเสถียรของเซิร์ฟเวอร์และความใกล้ไกลของเซิร์ฟเวอร์ (Ping)
  • เครื่องมือ อุปกรณ์ การวิเคราะห์ (MT4 ,MT5 ,Ctrader, Etc.)
  • ช่องทางการฝากเงิน – ถอนเงินที่เราต้องการ (ธนาคาร เค้าเตอร์เซอร์วิส Etc.)
  • ความสะดวกในการใช้งาน หน้าเว็บไซต์
  • ความสะดวกและรวดเร็วในการ สอบถามแก้ไขปัญหา (Support)
  • ความสะดวกและรวดเร็วในการฝากเงิน – ถอนเงิน (Deposit - Withdraw)
  • ระดับ Leverage ที่เราต้องการใช้งาน (1:1 ไปจนถึง 1:2,000)
  • ประเภทบัญชีที่เราต้องการใช้งาน (Micro Standard ECN,Etc.)
  • ความครบถ้วนทางผลิตภัณฑ์ที่เราต้องการเทรด (ค่าเงิน น้ำมัน ทองคำ Bitcion Etc.)
  • ความสะดวกรวดเร็วในการเคลม ออเดอร์ที่เสียหายซึ่งเกิดจากความผิดพลาดของโบรกเกอร์
  • ต้องการ Scalping Hedging Martingale หรือไม่?
  • ต้องการ Spread ในระดับต่ำ หรือไม่?
  • ต้องการค่า Swap หรือไม่?
  • ต้องการเสียค่า Commission ในระดับต่ำ หรือไม่?
  • ต้องการส่วนแบ่งรายได้หรือไม่ (IB)?
  • ต้องการกราฟที่เสถียรไม่เกิด Pips Hunt?
  • ต้องการเทรดเวลา New York Closing หรือไม่?
  • ต้องการ Support แก้ปัญหา เป็น ภาษาไทยหรือไม่?
  • ต้องการ Sever เพื่อใช้รัน Ea ระบบเทรดอัตโนมัติหรือไม่?
  • ต้องการซื้อขายผ่านทางโทรศัพท์ หรือหน้าเว็บ หรือไม่?
  • ต้องการ Stop Loss จุดที่ตั้งไว้ช่วงเกิด Gap หรือไม่?
  • ต้องการ Take Profit เกินจุดที่ตั้งไว้ช่วงเกิด Gap หรือไม่?
  • ไม่ต้องการ Requote  ณ ช่วงเวลาที่ส่งคำสั่งซื้อขาย ฯลฯ
  • ต้องการ Pending Order Trailing Stop หรือไม่?
สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็น ข้อมูลเบื้องต้นที่เราควร รู้ ในตอนต่อไป เป็น คำแนะนำ การเลือกโบรกเกอร์ ตามประสบการณ์ ของนาย RooMForex ที่คลุกคลีกับวงการณ์นี้ มานานมากกว่า 10ปี 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น